งานแสดงเครื่องประดับและอัญมณี Singapore Jewellery & Gem Fair เตรียมเปิดฉากแห่งความอลังการครั้งแรกในสิงคโปร์ ด้วยบูธ Antique Pavilion มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
งานแสดงเครื่องประดับล้ำค่าที่ใหญ่ที่สุดครั้งนี้ได้รับความสนใจในด้านเครื่องประดับโบราณในเอเชียมากขึ้น
ในวันที่ 12-15 ตุลาคมนี้ งานแสดงเครื่องประดับและอัญมณี Singapore Jewellery & Gem Fair ที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรก จะอวดโฉมเครื่องประดับโบราณอันล้ำค่าซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (120 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ที่บูธ Antique Pavilion เป็นครั้งแรกในสิงคโปร์
งาน Singapore Jewellery & Gem Fair ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ที่กลุ่มผู้ที่มีความมั่งคั่งสูง (HNWIs) และบรรดาผู้ซื้อในภูมิภาค โดยบูธ Antique Pavilion จะประกอบไปด้วยบริษัทเครื่องประดับและอัญมณีที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมกว่า 10 ราย เพื่อที่ผู้เข้าชมและผู้ซื้อมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเครื่องประดับล้ำค่าที่หาได้ยากเหล่านี้
สามบริษัทค้าอัญมณีโบราณที่น่าสนใจได้แก่
- มัวร่า (Moira)
ตั้งอยู่บนถนนบอนด์ สตรีท ย่านการค้าสุดหรูในกรุงลอนดอน มัวร่าเป็นธุรกิจครอบครัวที่ค้าอัญมณีมากว่า 40 ปี โดยมีเครื่องประดับอัญมณีโบรานชั้นเลิศมาให้เลือกชมมากมาย ซึ่งรวมถึงอัญมณีแท้ในช่วงศตวรรษที่ 20 จากผู้ออกแบบอัญมณีชั้นนำอย่าง บูเชอรอง, คาเทียร์ม มาร์คัส แอนด์ โคม ทิฟฟานี่ และแวนคลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์ ตลอดจนอัญมณีจากยุคจอร์เจียน วิคตอเรี่ยนและเอ็ดวาร์เดียน
- พีเรียด เจเวลส์ (Period Jewels)
ก่อตั้งขึ้นเพื่อจัดหาอัญมณีโบราณหายากให้กับลูกค้าในราคาที่สมเหตุสมผล พีเรียด เจเวลส์ ได้ก้าวขึ้นสู่ระดับโลกในการนำเสนอเครื่องประดับ เครื่องเพชร และอัญมณีโบราณให้กับลูกค้า มีความเชี่ยวชาญในการซื้อเครื่องประดับจากผู้ออกแบบอย่าง แวนคลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์, คาเทียร์ม แฮร์รี่ วินสตัน, ทิฟฟานี่ แอนด์ โค, เดวิน เวบบ์, เวอดูร่าและบุคเซลาตติ รวมถึงอัญมณีจากยุคจอร์เจียนอีกด้วย
- วินด์เซอร์ เจเวลเลอร์ส อิงค์ (Windsor Jewelers Inc)
เป็นผู้ค้าเครื่องประดับเก่าแก่ชั้นนำแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ด้วยเครือข่ายสำนักงานในนครนิวยอร์ก กรุงลอนดอน และเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส นายพอล ลูเบ็ตสกี้ ผู้ก่อตั้งนั้นเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดของแบรนด์เครื่องประดับสุดหรู โดยเขาได้ซื้อเครื่องประดับส่วนเกินจากบริษัทยุโรปอย่างบุลการี, มาริน่า บี, แวนคลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์, คาร์เทียร์, ชาแนล, มอบูสแซง, ชอเมต์และบูเชอรอง ส่วนในสหรัฐ เขายังได้ซื้อเครื่องประดับจากบริษัทต่างๆเช่น เกรผมธ, ลอร่า มุนเดอร์, เซเด็นแกง และเครก เดรก
นายพอล วาน กรรมการผู้จัดการของ UBM Asia Trade Fairs Pte Ltd ซึ่งเป็นผู้จัดงาน Singapore Jewellery & Gem Fair กล่าวว่า “เนื่องจากเทรนด์เครื่องประดับโบราณนั้นได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในเอเชีย ผมเชื่อว่าบูธ Antique Pavilion จะมีผู้ให้ความสนใจอย่างล้นหลามภายในงาน ผู้ซื้อต่างชื่นชมในความงดงาม อีกทั้งโอกาสที่จะได้สัมผัสกับประวัติและมรดกที่สืบทอดมาอย่างยาวนานของเครื่องประดับโบราณที่หาชมได้ยากเหล่านี้ โดยบรรดาผู้ซื้อมักจะมีความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับเครื่องประดับล้ำค่า ซึ่งมักจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจให้ค้นหาซ่อนอยู่”
“นอกจากนี้ยังมีเหล่านักสะสมตัวยงที่ต้องการซื้อเครื่องประดับโบราณเพื่อจุดมุ่งหมายในการลงทุน โดยเล็งเห็นถึงคุณค่าของเครื่องประดับที่จะเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา และยังมีผู้ซื้อเครื่องประดับโบราณ โดยเฉพาะเครื่องประดับชั้นดี ที่ผู้ซื้อมีความตั้งใจที่จะมอบให้แก่ผู้ที่เป็นที่รัก ในฐานะมรดกสืบทอดในครอบครัว เพื่อที่จะได้รักและทะนุถนอมไปชั่วนิรันทร์”
เครื่องประดับโบราณบางชิ้นสามารถย้อนประวัติไปได้กว่าร้อยปี ทั้งนี้ เครื่องประดับที่มีอายุยาวนานที่สุดได้แก่รัดเกล้าเพชรสมัยวิคตอเรียนราวๆปี 2393 ซึ่งมีมูลค่าทั้งสิ้น 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (24 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์) ส่วนเครื่องประดับที่มีอายุ ‘น้อยกว่า’ มากได้แก่แหวนทองคำ 18 เค ประดับด้วยมรกตและเพชรในปี 2524 ของแฮร์รี่ วินสตัน มูลค่า 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.8 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์)
บูธ Antique Pavilion เป็นหนึ่งในสามบูธที่มีธีมการจัดแสดงพิเศษภายในงาน โดยบูธ Designer Atelier และ Exquisite Pavilion ซึ่งเป็นอีกสองบูธพิเศษภายในงานนั้นยังเป็นพื้นที่จัดแสดงอัญมณีสุดหรู เช่น มรกต 129.6 กะรัต ของบริษัท Essex Global Trading Bijan & Co LLC จากสหรัฐอเมริกา มรกตอันเลอค่านี้ถูกฝังอยู่ในสร้อยคอทองคำขาว ซึ่งเรียงรายไปด้วยมรกตและเพชร 105.34 กะรัต
งาน Singapore Jewellery & Gem Fair ได้รับเสียงตอบรับอย่างกึกก้องจากวงการ โดยมีผู้สนใจจัดแสดงยืนยันเข้าร่วมงานแล้วกว่า 260 ราย จาก 27 ประเทศ ทำสถิติสูงกว่าทุกๆงานจัดแสดงเครื่องประดับในสิงคโปร์ และคาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมจัดแสดงงานเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีผู้จัดแสดงที่มีศักยภาพมากมายได้เข้ามาสอบถามกับทาง UBM เพื่อขอมีส่วนร่วมในงานปฐมฤกษ์ครั้งนี้เป็นจำนวนมาก