หน้า: 1 2 3 4 5

ชนิดกระทู้ ผู้เขียน กระทู้: หดหู่ใจกับการจัดงานวันแม่ของ รร.  (อ่าน 61498 ครั้ง)
add
เรทกระทู้
« เมื่อ: 10 ส.ค. 12, 16:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
Send E-mail

แบ่งปันกระทู้นี้ให้เพื่อนคุณอ่านไหมคะ?

ปิดปิด
 
หดหู่ใจกับการจัดงานวันแม่ของ รร. อยากให้ยกเลิกบางขั้นตอนออกไป

วันนี้ได้ไปร่วมงานวันแม่ที่ รร ลูก เหมือนกับทุกๆ ปี แต่ไม่มีครั้งไหนสะเทือนใจเท่าครั้งนี้ เลยมีคำถามที่ถามมาจากใจ และอยากฟังความคิดเห็นเพื่อนๆ ค่ะ เผื่อจะเอาไปคุยกับทาง รร ลูก

ว่าพิธีการบางขั้นตอน "การกราบแม่ของเด็กนักเรียน" ไม่ควรมี หากจะกราบก็กลับไปกราบที่บ้าน หรือส่งตัวแทนเช่นหัวหน้าชั้น สักห้องละคนกราบคุณครูแทนได้ไหม หรือทุกคนกราบพร้อมๆ กัน โดยไม่ต้องเชิญพ่อแม่มาให้นั่งกราบตัวตัว คุณพ่อคุณแม่ไปร่วมงานก็ตามสะดวกแต่ไม่ต้องไปนั่งให้เด็กกราบ หรือไหว้

เพราะปัญหามันอยู่ที่
1. ความรู้สึกของเด็กที่ พ่อแม่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ เนื่องจากภารกิจ หรืออะไรก็แล้วแต่ เช่นเด็กบางคนมีแต่พ่อ ไม่มีแม่, พ่อแม่แยกกัน, พ่อแม่ติดงาน ลางานไม่ได้ ฯลฯ
2. ความรู้สึกของพ่อแม่ที่อยากมาร่วมงานแต่มาไม่ได้

เราขอเล่าเหตุการณ์ที่เจอมาเองในวันนี้ เริ่มจากเหตุการณ์ในตอนเช้า คุณพ่อไปส่งคุณลูกและรอร่วมพิธี โดยที่เรายังไม่ได้ไปเพราติดงาน และวางแผนว่าหากแม่ไปไม่ทัน คุณพ่อจะไปนั่งแทนคุณแม่ แต่พอเอาเข้าจริงคุณลูกไม่ค่อยยอม และพูดว่า "เชื่อว่ามะมี๊ต้องมาทันแน่นอน" ทำให้พ่อต้องโทรตามจิกแม่ที่พยายามขับรถฝ่ารถติดอยู่ แทบจะทุก 5 นาที ลุ้นกันจน แม่ร้องไห้ เพราะติด 4 แยกไฟแดงสุดท้ายนานมาก
เพราะคำพูดของลูกก้องในหัวตลอดว่า "หากแม่ไม่มาหนูก็จะกราบเก้าอี้ และกอดเก้าอี้ของแม่ ไม่ให้พ่อนั่งแทน" โอ้วแม่เจ้า อะไรของลุกเนี่ย แล้วแม่แย่ๆ อย่างเราจะยอมให้เป็นแบบนั้นได้ยังไง นาทีนั้น แทบจะฆ่าคนทุกคนบนถนน แต่สุดท้ายก็มาทันจนได้
เก้าอี้ว่างเปล่าที่ตั้งรออยู่ 1 ที่นั่ง กับสายตาลูกที่มองมา มันเป็นอะไรที่ทำให้กลั้นน้ำตาไม่อยู่

นั่งหายใจได้สักแปป เสียงคุณครูประกาศให้นักเรียนทุกคนหันหน้ามาทางแม่ของตัวเองแล้วแสดงความรักต่อแม่ โดยลูกสาวเตรียมการ์ดและดอกมะลิ ไว้ เขาก้มลงกราบ เรากลั้นน้ำตาไม่ไหว หัวเราะกอดลูกทั้งน้ำตา เขาขำที่แม่เขาร้องไห้ เขาเช็ดน้ำตาให้ แล้วบอกรักแม่ สงสารแม่ที่ทำงานหนักเพื่อเขา เขากอดจนพอใจแล้วก็ลงนั่งกับเพื่อนๆ เราก็แอบเช็ดน้ำตาจนแห้ง จึงเงยหน้ามองดูลูกที่นั่งกับเพื่อนๆ แต่สิ่งที่เห็น

เพื่อนคนนึงของลูกสาว นั่งในแถวที่ 2 ร้องไห้สะอึกสะอื้น น่าสงสาร เลยถามลูกว่าน้องเป็นอะไร ได้คำตอบมาว่า "แม่น้องแป้งไม่มา" เราได้แต่นั่งสลดใจมองเขาสักแปป พอเพลงค่าน้ำนมขึ้นเท่านั้นหละ เจ้าแป้งร้องไห้หนักขึ้นอีก เราทนไม่ไหว บอกลูกสาวให้ดึงน้องแป้งมา แม่จะคุยกับเขา ลูกสาวดึงน้องมาแบบงง งง เราเอาเขามากอดไว้ ถามเขาว่าเป็นอะไร เขาบอก "เขาคิดถึงแม่ แม่ไม่อยู่ " เราได้แต่กอดและปลอบเขาว่า งั้นแม่กอดหนูแทนก่อน พอแม่หนูกลับมาหนูค่อยไปกอดแม่ กราบแม่ใหม่นะคะ " ดีที่เขาว่าง่าย เขากอดเราตอบ ซบหน้าร้องไห้ เรากอดจนเขาหายร้อง เสียงประกาศก็ดังขึ้นอีกครั้ง ว่าให้นักเรียนกราบลาคุณแม่ เด็กๆ ก็นั่งลงต่อหน้าแม่ของตนอีกที น้องแป้งทำหน้าเหวอ จะเดินไปข้างหลัง เราเลยดึงเขาไว้ แล้วพูดกับเขาเบาๆ "งั้นวันนี้หนูเป็นลูกแม่สักวันนะคะ"
เขายิ้มบางๆ พยักหน้า ผู้ปกครองคนข้างๆ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เอามือมาจับแขนเราเหมือนเข้าใจกัน เด็กๆ ก้มลงกราบแม่อีกครัง เราดึงทั้งลุกสาวและแป้งมากอดพร้อมๆ กัน ยังนึกขำ โอย ลุกตัวโต ทั้งคู่เลย แม่เลยเหลือตัวนิดเดียว
เจ้าลูกสาวตัวดี บอกว่า" แม่กลับไปทำงานได้ละ หนูจะอยู่ รร ต่อ ไม่กลับ " แล้วก็จับมืองน้องแป้งพากันไปดื่มนมที่โรงอาหาร

นี่หละค่ะ เหตุการณ์ที่เจอมา และทำให้รู้สึกว่า ในสิ่งดีๆ ก็มีสิ่งที่ไม่ดีซ่อนอยู่สำหรับใครบางคน เราไม่อยากให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับเด็กคนไหนเลย

ที่มา http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U12495176/U12495176.html
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า

กระทู้ฮอตในรอบ 7 วัน

add
เรทกระทู้
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 ส.ค. 12, 19:41 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ขั้นตอนนี้แหละสำคัญเลย ตัดได้ไง ก็มีจดหมายแจ้งแล้วว่า จะมาร่วมงานรึไม่มา ซึ่งท่านก็อาจจำเป็นมีธุระของท่าน ก็สุดแล้วแต่ ท่านก็ควรคำนึงถึงความรู้สึกของบุตรหลานท่าน หรือใช้วิธีสุดท้่าย คือไม่ต้องให้บุตรหลานท่านมา... q*039

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #2 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 03:49 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

วิธีนี้สมัยเคยเรียนคุณครูตัดออกจากกิจกรรมวันแม่ไปแล้วค่ะ เปลี่ยนมาให้นักเรียนใส่บาตรแทนเพราะเข้าใจความรู้สึกของเด็กที่แม่มาไม่ได้ นี่ก็จบมา สิบกว่าปีแล้วค่ะไม่แน่ใจว่าที่โรงเรียนจะยังใช้วิธีนี้อยู่หรือเปล่านะคะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
Yosaphan2504@gmail.com
เรทกระทู้
« ตอบ #3 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 05:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ปีหนึ่งมี1ครั้ง น่าจะให้เวลาลูกบ้างนะคุณ ควรจะมองที่ลูกมากกว่าความคิดเห็นของคุณ ทำให้เด็กมีกำลังใจเรียนและรักแม่มากขึ้นเหมือนเพื่อนคนอื่นเขา ผมไม่เห็นด้วยเลยที่จะให้ยกเลิกครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แม่
เรทกระทู้
« ตอบ #4 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 05:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทำไมแม่ไม่มาละคะ่ อย่าหาข้ออ้างเลยคะ 1ใน365วันทำให้ลูกเถอะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #5 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 05:42 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ครูบ้านนอก
เรทกระทู้
« ตอบ #6 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 06:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062คนเป็นแม่ก้ควรสละเวลาไปร่วมงานนะครับ 1 ปี มี 1 วัน หากไม่เห้นความสำคัญก็ไม่รุ้จะพูดยังไงละครับ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ความจิง
เรทกระทู้
« ตอบ #7 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 06:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062 เขาใจคับ สำหรับพ่อแม่ที่มาไม้ได้เพราะติดธุระคุณต้องมีเวลาให้ลูกบ้าง แต่คุณไม่เห็นใจกับเด็กบางคนที่แม่มาไม่ได้ *เพราะท่านไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว*หรอ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
pangpond2gom
เรทกระทู้
« ตอบ #8 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 06:37 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เข้าใจนะครับ ว่าวันแม่เป็นวันสำคัญ แต่ ถ้าคุณใจกว้างมากพอและมีความรู้สึก ก็ควรเห็นใจเด็กที่ไม่มีพ่อมีแม่ด้วยนะครับ ถ้าคุณสำรวจสำมะโนประชากร จะทราบได้ว่า การหย่าร้าง เด็กกำพร้า การทำงานต่างถิ่นฐาน มีมากกว่าสมัยก่อนเยอะมากครับ q*039
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แม่คนหนึ่ง
เรทกระทู้
« ตอบ #9 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 06:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
เห็นด้วยคะ...คนมีแม่ไม่เท่าไรคนที่ไม่มีแม่มีมีพ่อ แย่เลย แค่ตักบาตรทำบุญน่าจะพอการแสดความรักต่อพ่อแม่ไม่จำเป็นต้องแสดงให้ใครๆๆเห็น ถ้ารักและเครรพจริงกราบที่บ้านก็ได้ ..น่าจะยกเลิกไปซะ
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ยอ
เรทกระทู้
« ตอบ #10 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 07:01 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ยกเลิกเถอะการจัดงานวันแม่ที่ให้แม่ไปนั่งบนเก้าอี้แล้วให้ลูกมากราบเท้านะ สงสารเด็กที่ไม่มีแม่ จิตใจพวกเขาจะเป็นอย่างไร เป็นการกระทำที่ตอกย้ำความคิดเด็ก

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
kokok
เรทกระทู้
« ตอบ #11 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 07:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่โรงเรียนมีการสำรวจคนที่แม่มา และแยกที่แม่ไม่ว่าง แต่ละกลุ่มจะมีกิิิจกรรมเวลาเดียวกัน โดยแม่ไม่มาจะมีครูจัดกิจกรรมให้ และดูแลพูดคุยตลอด งานนี้ครูเหนื่อยแต่มีความสุขเพราะเด็กทุกคนมีความสุขค่ะ ต้องจัดงานวางแผนดีดี

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
อย่าซีเรียส
เรทกระทู้
« ตอบ #12 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 07:14 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ก่อนแสดงความคิดเห็นอะไร ขอให้ทำในสิ่งที่พูดให้ได้กันซะก่อนนะครับ..แล้วค่อยมาแชร์ q*032

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ปลานิล
เรทกระทู้
« ตอบ #13 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 07:19 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มองแต่มุมที่เห็นใจเด็ก ลองมองดูอีกทีสิแค่เรื่องแค่นี้ยังรับไม่ได้อีกหน่อยเกิดปัญหาอะไรมาไม่ฆ่าตัวตายเลยรึ อะไรก็บอกทำให้ลูกวันเดียวไม่ได้เหรอ ถ้าทำไม่ได้จะเลี้ยงจนโตเข้าโรงเรียนได้ไง ให้เด็กเค้าเจออะไรบ้างมัวแต่อุ้มอยู่อย่างนี้เค้าจะเดินในเส้นทางชีวิตจริงๆไม่ได้นะ เจอมาหลายรายแล้วด้วยพวกแบบนี้ ยกตัวอย่างเรียนจบต้องให้พ่อแม่ออกรถให้ ทำไมไม่คิดจะส่งเงินให้พ่อแม่บ้างล่ะ เพราะโอ๋กันตั้งแต่เด็กนี่ไง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
CK
เรทกระทู้
« ตอบ #14 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 07:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สมควรตัดกิจกรรมนี้ออกไป และให้เด็กทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน หรือถ้าผู้ปกครองติดธุระจริงๆก็น่าจะให้เด็กอยู่ที่บ้าน โดยส่วนตัวแล้ว ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมาก วันแม่ ต้องให้แม่ของเราซึ่งเป็นยายของเด็กไปนั่งแทนโชคดีที่คุณยายสนิทกับลูกของเรา เราเสียใจมากเพราะไม่สามารถไปร่วมกิจกรรมได้ มันไม่ได้เกี่ยวกับไม่มีเวลาให้เด็ก แต่บางกรณีที่มีความจำเป็นจริงๆหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้เสียความรู้สึกมากๆ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
วันพ่อ
เรทกระทู้
« ตอบ #15 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 07:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ของดิฉัน "วันพ่อ" ค่ะ ดิฉันแยกทางกับสามีเพราะเขาไปยกย่องหญิงอื่นเป็นภรรยา ทางโรงเรียนจัดงานวันพ่อ ดิฉันโทรให้เขามาร่วมงานของลูก เขาบอกว่าไม่ไป ไม่ว่าง ให้บอกโรงเรียนว่าพ่อไปต่างประเทศ ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาว่างค่ะ ลูกสาวคลุมโปงร้องไห้ทั้งคืน ดิฉันแก้ปัญหาด้วยการไม่ต้องให้ลูกไปร่วมกิจกรรม ขาดเรียนไปเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
5465
เรทกระทู้
« ตอบ #16 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 08:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมเห็นด้วยกลับเจ้าของกระทู้ครับ เห็นใจเด็กที่พ่อแม่แยกทาง บางทีก็อยู่กับปูกับย่า หรือพ่อแม่ไปทำงานต่างจังหวัด ผมเองก็เคย กราบเก้าอี้เปล่า 555เศร้าใจ เหมือนกันตอนเด็ก q*034

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
mk
เรทกระทู้
« ตอบ #17 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 08:23 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ดู คุณ ไม่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คุณแม่
เรทกระทู้
« ตอบ #18 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 08:30 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยค่ะ เพราะสงสารเด็กที่คุณแม่มาไม่ได้ และเข้าใจด้วยว่าคุณแม่ต้องติดธุระจริงๆ จึงมาไม่ได้ ทางโรงเรียนน่าจะเปลี่ยนวิธีการที่ดีกว่านี้ ไม่น่าใช้วิธีดราม่าเลย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
0634
เรทกระทู้
« ตอบ #19 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 08:52 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อ่านแล้วน้ำตาไหลค่ะในฐานะหัวอกผู้เป็นแม่....เข้าใจความรู้สึกเด็กเมื่อวานก้อเป็นตัวแทนแม่ของห้องลูกชายค่ะ...แต่พ่อของลูกเราแยกกันอยู่ลูกชายไม่เคยรู้สึกว่าขาดพ่อเลยค่ะในเมื่อเราเติมเต็มให้ลูกทุกอย่างแต่ยังดีที่พ่อเขาก้อโทรมาคุยเกือบทุกวันไกลแต่ตัว...แต่ใจพ่อลูกเขาผูกพันธ์กันค่ะ....ขอให้ลูกทุกคนเป็นคนดีของสังคมนะคะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คนโคราช
เรทกระทู้
« ตอบ #20 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 08:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตอนเด็กๆแอบเสียใจที่แม่ไม่เคยมาร่วมงานวันแม่ที่โรงเรียนจัดสักครั้ง พอถึงกิจกรรมตอนกราบแม่ต้องไปกราบแม่คนอื่นแทน รู้สึกเสียใจมาก เพื่อนดิฉันบ้างคนถึงกับร้องไห้ พอดิฉันโตแล้วถึงเข้าใจว่าที่แม่ไม่ไปร่วมกิจกรรมเพราะแม่ต้องทำงาน ถ้าหยุดเมื่อไร นั้นแปลว่าวันนั้นฉันกับน้องๆอาจจะไม่มีตังค์ซื้อข้าวกิน ฉันเข้าใจแม่และรักแม่มาก และแสดงให้แม่เห็นทุกวันว่ารักแม่ โดยการเชื่อฟังคำสอนของพ่อกับแม่ ท่านทั้งสองบอกเสมอว่า พ่อกับแม่ไม่มีสมบัติอะไรให้มีแต่ความรู้ที่จะให้ได้ พวกเรา 3 คนพี่น้องจึงตั้งใจเรียน จนปัจจุบันนี้ลูกทั้ง 3 คนของแม่ประสบความสำเร็จในชีวิตเรียนจบปริญญาโท มีงานดีๆทำ และช่วยกันซื้อบ้านให้พ่อกับแม่ ท่าน 2 คน ดีใจมาก และพูดกับดิฉันว่าแม่ไม่ต้องการหวังสิ่งใดจากลูกเลยนอกจากขอให้ลูกทุกคนเป็นคนดี ดิฉันเห็นด้วยกับการยกเลิกการจัดกิจกรรมกราบแม่เฉพาะวันเเม่ เพราะภาพที่ดิฉันได้เห็นมาตั้งแต่ยังเล็กก็คือ ภาพที่ผู้ปกครองของเด็กส่วนใหญ่ เน้นว่าส่วนใหญ่จะไม่มา ทำให้บรรยากาศในวันแม่เป็นอะไรที่สะเทือนใจที่สุด จึงไม่จำเป็นต้องไปแสดงแค่เฉพาะวันแม่ว่ารักแม่ เราควรแสดงให้ท่านเห็นทุกวันว่าเรารักท่าน ก่อนที่ท่านจะจากเราไป

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #21 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 08:57 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

จะอ้างเหตุผลยกเลิกการกราบแม่ที่เป็นไฮไลท์ของงานวันแม่ เพราะแม่ที่ไม่เห็นความสำคัญของวันแม่หรือ..แม่พวกนี้ไม่มาก็ดีแล้ว..เพราะลูกๆคงไม่รู้สึกดีกับการมาของแม่กลุ่มนี้สักเท่าไร..ยังมีแม่ที่ให้ความสำคัญของลูกอีกมาก..ในส่วนของลูกที่แม่ไม่มาครูควรจัดคนที่น่าเคารพนับถือที่ลูกๆคนนั้นรู้จักให้กราบแทน..น่าจะพอแก้ขัดได้..แม่ที่ไม่คิดถึงความรู้สึกของลูก..สักวันอย่ามาทวงถามถึงความกตัญญูน่ะ..เพราะลูกอาจมีให้ตามเวลาที่แม่ๆมีให้ลูกเช่นกัน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คุณแม่
เรทกระทู้
« ตอบ #22 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 08:59 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยค่ะ ความรู้สึกของเด็กละเอียดอ่อนมากค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แม่ลูกสอง
เรทกระทู้
« ตอบ #23 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:00 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ที่จริงไม่น่ามีปัญหาเลย แม่ไม่ทันพ่อไปแทน หรือไม่ทันทั้งสองก็ให้ยาตฺผู้ใหญ่ที่นับถือไปแทนหรือไม่ว่างจริงๆก็ไม่ต้องไปเลย มันเป็นพิธ๊ที่สำคัญธีที่สำคัญนะเป็นการให้รู้ว่าลูกเราเป็นอย่างไร

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ห้อย เว่ย
เรทกระทู้
« ตอบ #24 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:05 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ทุกวันแม่พ่อนั่งเป็นประธาน เพื่อประจานว่าหนูแม่ไม่มี
เป็นทุกปีอย่างนี้เป็นประจำ ไม่ไช่ขำแต่เพราะครูอยากดูดี
เล่าอย่างนี้เพราะซึ้งในดวงจิต ว่าชีวิตไม่ได้ดั่งใจหมาย
ถึงต้องอายก็ขอให้เจ้ารู้ ว่าพ่ออยู่คู่เจ้าเฝ้าดูแล
เว่ย มีลูกสาวคนหนึ่ง ปวช2 แล้ว เลี้ยงมาตั้งแต่ยังไม่เข้า ป.1 เข้าใจเลย
ฟามรู้สึกจังซี่ ห้อย เว่ย

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
busline29
เรทกระทู้
« ตอบ #25 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:05 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

สงสารเด็กนะกับการแสดงออกแบบนี้ยิ่งกับเด็กเล็กๆ บางครั้งแม่ติดธุระแต่เด็กไม่เข้าใจอาจทำคิดว่าแม่ของเพื่อนมาได้แต่แม่ของเราไม่มา มันอาจทำให้เด็กคิดว่าแม่ไม่รักเค้าก็ได้ ทั้งๆที่แม่อยากจะมาร่วมงานแทบขาดใจ การที่เราไม่ได้ไปไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักลูก....แต่ที่เราเหนื่อยทุกวันนี้ถ้าเราไม่รักลูกแล้วจะเรียกว่าอะไร...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
พี่จ้า
เรทกระทู้
« ตอบ #26 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยกับ จขกท พวกที่บอกว่าวันเดียวมาไม่ได้เหรอ คุณพูดกันแบบไร้สมองมากๆ ผมเจอกับตัวเลย พี่ที่ทำงานลางานล่วงหน้าเพื่อจะไปงานวันแม่ เพราะเป็นลูกจ้างเขา เจ้านายอนุญาติ แต่พอก่อนวันลาหนึ่งวันเจ้านายมาบอกว่าพรุ่งนี้ต้องมานะเพราะมีงานด่วนยังไงก็ต้องมา เชื่อไหม ลูกสาวเขาขอโทรศัพท์คุณครูโทรมาทุกระยะๆ ว่าอยากให้แม่มาๆ เพื่อนไหว้แม่กัน หนูไม่มีใครให้ไหว้เลย พี่ที่ทำงานนั่งร้องไห้ จนเราเห็นแล้วแบบสงสารเลย โกรธเจ้านายก็โกรธ คนเป็นเจ้านายงานมาก่อนเสมอ แล้วอีกกรณี เด็กบางคนอยู่กับพ่อ แม่แยกทางไปหรือแม่ เสียชีวิต มันยิ่งเป็นการตอกย้ำเด็กที่ไม่มีแม่มากๆ ความคิดผมถ้าไม่ตัดขั้นตอนนี้ก็น่าจะเลือกคุณแม่ของตัวแทนสักคนสองคนพอแต่ละชั้น ส่วนที่เหลือคุณครูก็เตรียมพวงมาลัยหรือการ์ด แล้วแนะนำเด็กให้กลับเอาไปไหว้แม่ที่บ้าน เชื่อเถอะว่าแม่ที่ทำงานมาเหนื่อยเจอแบบนี้หายเหนื่อยแน่นอน และเด็กคนที่ไม่มีแม่ก็ให้กลับไปไหว้คนที่เลี้ยงดูอาจจะเป็นพ่อ ย่า ยาย หรือคนที่เลี้ยงดู เพราะนั่นก็เปรียบเหมือนแม่เหมือนกัน

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
Samranyu
เรทกระทู้
« ตอบ #27 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:08 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผมว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องน่าอายแต่อยากใดการกราบแม่เป็นสิ่งที่ดีเป็นมงคลกะชีวิตถึงแม่ว่าเด็กคนอื่นจะไม่มีแม่มาให้กราบแต่อย่างน้อยเด็กคนนั้นก็ได้เห็นภาพของความรักระหว่างแม่กะลูกเพื่อในวันข้างเขาโตเป็นผู้ใหญ่เขามีครอบครัวจะได้สอนลูกของเขาว่าควรเครพแม่กราบแม่เพื่อเป็นสิริมงคลไม่ใช่หรอครับ เพราะฉนั้นการกราบแม่ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีแต่เป็นการสร้างให้เกิดความรู้สึกดีต่อตัวเราและคนอื่นๆที่พบเห็น
....สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนรักแม่บูชาแม่ทุกๆวัน ชีวิตเจริญแน่นอน...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นุช
เรทกระทู้
« ตอบ #28 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:16 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

มันเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่ไม่ควรตัดออกไปค่ะ เพราะช่วงเวลานี้แหล่ะที่ทำให้ลูกๆ ทั้งหลายได้ทราบซึ้งถึงพระคุณของแม่ และบรรดาแม่ ๆ ก็คงจะรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่เห็นลูกรักที่เราเลี้ยงดูมาเขามีโอกาสที่จะได้แสดงให้เราเห็นว่าเขาก็รักเรามากเช่นกันค่ะ คิดว่าคุณแม่ควรจะภูมิใจมากนะคะที่ลูกคุณเขารอแต่คุณ และให้ความสำคัญกับคุณมากขนาดนี้ ถึงแม้คุณจะเหนื่อยแค่ไหนในการที่ต้องพยายามมาให้ทัน แต่จุดหมายปลายทางคือความรู้สึกล้ำค่าที่คุ้มกับความพยายามค่ะ และสำหรับคุณแม่ที่มาไม่ได้สิ่งสำคัญที่สุดคือมันเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่ลูกๆ ของคุณให้รู้ถึงความรักและความสำคัญของคุณแม่ทั้งหลายค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #29 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:18 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

1 ปีมีครั้งเดียวนะคะ..จริงๆแล้วโรงเรียนจะมีแบบสำรวจให้ผู็้้ปกครองระบุว่ามาได้หรือมาไม่ได้แล้วก็แยกเด็กที่ผู้ปกครองมาได้กับมาไม่ได้ไว้คนล่ะส่วนนี่ค่ะ ในกรณีของคุณนั้นคุณทราบว่าทางโรงเรียนจัดกิจกรรมแบบนี้คุณจะมานั่งโทษว่าเป็นเพราะกิจกรรมไม่ดีมันไม่ได้หรอกค่ะ คุณต้องโทษที่ตัวคุณเองยอมเสียสละ 1 วันต้องทำเพื่อลูกไม่ใช่หรือคะ เด็กๆทุกคนน่ะอยากให้แม่ตัวเองมาที่โรงเรียนทั้งนั้นแหล่ะค่ะ กิจกรรมวันแม่ให้แม่มาโรงเรียนเพื่อกราบน่ะทำได้แค่ช่วงอนุบาล-ป.6 เท่านั้นนะคะพอเข้ามัธยมกิจกรรมแบบนี้ก็ไม่มีแล้ว ที่สำคัญโรงเรียนจะมีสักกี่งานกันเชียวคะหรือว่าจะเสียสละไปโรงเรียนลูกได้แค่กิจกรรมวันคริสมาสต์หรืองานบอลของโรงเรียนเท่านั้นเองคะ...ธุระของพ่อแม่ไม่ยิ่งใหญ่เท่าธุระของลูกนะคะ...

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #30 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:20 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
แม่ทำให้ลูกมากมายกายกองอยู่แล้วล่ะ อย่าเอาปัญหาเล็กๆมาต่อว่าแม่ที่มาไม่ได้มางานเลยครับแค่ส่วนน้อยที่ติดธุระจริงๆ พ่อแม่ทุกคนก็รักลูกตัวเองมากกันทั้งนั้นครับ ผมเชื่อที่แม่บางท่านมาร่วมงานไม่ได้ต้องมีเหตุผลที่สำคัญกว่ามาให้ลูกกราบวันแม่จริงๆ...เลิกคิดหรือกล่าวให้ร้ายผู้อื่นโดยที่เราไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงซ่ะที่เถอะครับคนไทยจะมัวมามองคนอื่นไม่ดีไปหมดแบบนี้ก็สามัคคีไม่เกิดขึ้นได้ซ่ะที่ซิครับ.

(ยกตัวอย่างถ้าแม่มาให้ลูกกราบแล้วแม่ต้องถูกเจ้านายหรือที่ทำงานไล่ออกเพราะเจ้านายมอบหมายงานสำคัญมากๆของบริษัทให้จัดการแล้วต่อไปลูกจะลำบากกว่านี้..หรืออาจจะไม่มีเงินส่งให้เรียนเพราะตกงานครับ ลองเปรียบเทียบกันดูว่าน้ำตาของแม่กับน้ำตาของลูกอย่างไหนมีคุณค่ามากกว่ากัน..วันแม่ไม่ได้มีแค่ปีนี้ปีเดี่ยว)
q*039
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
457
เรทกระทู้
« ตอบ #31 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:22 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่ต้องตัดขั้นตอนไหนหรอกค่ะเพราะทุกขั้นตอนสำคัญอยู่แล้ว เพียงแต่คิกว่าสำหรับเด็กที่ไม่มีคุณแม่ก็น่าจะให้คุณครูประจำชั้นเป็นคนขึ้นไปแทนเป็นคุณแม่อย่าน้อยเก้าอี้ตัวที่อยู่ตรงหน้าน้องเขาจะได้ไม่ว่างเปล่าเท่านี้น้องก็ไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวแล้วค่ะที่พูดได้แบบนี้เพราะไม่มีคุรแม่เหมือนกันค่ะตอนนี้คุณครูก็เป็นแม่แทนในงานวันแม่ค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #32 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:23 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

หลังจากที่อ่านกระทู้นี้แล้ว ขอบอกว่าเข้าใจความรู้สึกของคุณแม่นะคะจริงๆโรงเรียนแต่ละโรงเรียนมีวิธีจัดการหลายแบบ แต่โรงเรียนที่คุณแม่เคยสอนเรากันเด็กๆที่คุณแม่ไม่มา ในช่วงเวลาที่กราบคุณแม่ให้เอาเด็กออกเพื่อให้เด็กสะเทือนใจน้อยที่สุด แต่คุณแม่รู้ไหมคะเด็กไม่ได้แค่สะเทือนใจตอนกราบเท่านั้นแต่เค้ารู้สึกแย่ตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าโรงเรียนแล้วมองไปเห็นแต่พ่อแม่คนอื่น ทางที่ดีวิธีแก้ง่ายๆ ลางานคะทำเพื่อเค้าหรือถ้าลาไม่ได้ก็ให้คุณลูกหยุดเรียนเลยเพราะคุณแม่ต้องเข้าใจโรงเรียนด้วยว่าทางกระทรวงบังคับให้โรงเรียนต้องจัดพิธีวันแม่ และคุณแม่ที่มีเวลาก็รู้สึกประทับใจกับช่วงเวลานี้ เราก็เป็นคนนึงที่เคยเป็นอย่างคุณแม่ เราเป็นคุณครูที่ต้องจัดกิจกรรมแบบนี้ให้กับเหล่าคุณแม่แต่ลูกเรากลับไม่มีคนให้กราบคุณแม่ลองนึกดูนะคะอะไรที่แย่กว่ากัน เราจำได้ว่าลูกอยู่โรงเรีียนเดียวกันแต่เราเป็นครูประจำชั้นต้องดูแลเหล่าคุณแม่ในห้องก่อน ลูกเพิ่งอยู่เตรียมอนุบาลสิ่งที่เราเห็นหลังจากจัดกิจกรรมห้องตัวเองเสร็จลูกชายวัย 2 ขวบวิ่งเอาพวงมาลัยในมือไปให้คุณแม่ทุกคนแล้วกอดคุณแม่ทุกคนเพราะจะทำเลียนแบบเพื่อน เห็นแล้วน้ำตาจะไหล พอคุณแม่ทั้งหลายบอกคุณลูกว่าคุณแม่มาแล้วเจ้าตัวดีหน้าบานยิ่งกว่ากระด้งอีก ฉะนั้นไม่ใช่แต่ความรู้สึกของคุณแม่หรอกคะ ของคุณครูที่มีวัยของลูกในช่วงเล็กๆก็เหมือนกันลูกของเราก็ไม่มีแม่ให้กราบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 ส.ค. 12, 09:31 น โดย apple171211 » noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
หัวอกคนเป็นแม่
เรทกระทู้
« ตอบ #33 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:24 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

เห็นด้วยนะคะที่ยกเลิกกิจกรรมวันแม่ ไม่ใช่ว่าไม่มีเวลาให้ลูกแต่สงสารเด็กที่ไม่มีแม่ ไม่ได้อยู่กัแม่ จิตใจเค้าคงย่ำแย่มากๆ เคยไปโรงเรียนลูกนะคะไปร่วมกิจกรรม แววตาเด็กที่แม่ไม่มา เศร้ามากๆค่ะ ทำบุญเลี้ยงพระ ก็พอแล้วค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #34 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ผม แลพ สาว น้องชายเป็นคนนึง ที่ ก้มกราบเก้าอี้ เปล่า หรือพ่อ ในวันแม่ทุกปี จนโต ...... เพราะแม่ทิ้ง พวกผมตั้งแต่น้องชาย อายุไม่ถึง 4 ขวบ
ทุกครั้งงที่ผมก้มกราบที่เท้าพ่อ ผมจะกอดเท้าแก ร้องไห้เสมอ ....คิดแต่ว่าทำไมผมไม่กราบแม่เหมือนคนอื่นๆ .... มีเพียงพ่อที่เป็นข้าราชการผุ้ใหญ่ที่คนเคารพเยอะ.... มาให้กราบเพียงเท่านั้น ทุกปี

พ่อจะลูบหัวเบาๆ แล้วบอกว่า ....ไม่เป็นไรนะลูกชาย พ่อก็เหมือนเป็นแม่ของหนู ..บ้านเรามีกันเท่านี้

... จนตอนนี้ ผมมีลูกเอง ..ผมเคยบอกเจ้านายว่า วันแม่ ตอนพิธีนี้ ผมจะไปดูลูก 2 คนของผมก้มกราบแม่ แม้จะไม่ได้ถูกกราบเองก็ตามที...เคยติดงานด่วน ผมนั่งทำงานถึงสว่าง 4 วันติด ...เพื่อให้มีเวลาอีก 2 ชม. เพื่อไปดูลูกกราบแม่ ..1 ปี ขอ 2 ชม. ให้ลูก แต่ เรากลับมีเวลามากมายให้ นาย ลูกค้า เพื่อน สังคม...กลับมีได้ ไม่ลำบากหรอกครับ หากจะต้องทำจริงๆ

จาก คนไม่มีแม่....
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
nn
เรทกระทู้
« ตอบ #35 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:34 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*062

เข้าใจนะครับ ว่าวันแม่เป็นวันสำคัญ แต่ ถ้าคุณใจกว้างมากพอและมีความรู้สึก ก็ควรเห็นใจเด็กที่ไม่มีพ่อมีแม่ด้วยนะครับ ถ้าคุณสำรวจสำมะโนประชากร จะทราบได้ว่า การหย่าร้าง เด็กกำพร้า การทำงานต่างถิ่นฐาน มีมากกว่าสมัยก่อนเยอะมากครับ q*039
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คุณแม่ลูกสอง
เรทกระทู้
« ตอบ #36 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:35 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ใช่ค่ะบางทีลูกเรียนอยู่คนล่ะโรงเรียนซึ่งคนเป็นแม่ไม่สามารถไปได้ทั้งสองท่ีแน่ๆเพราะกิจกรรมมักจะจัดพร้อมๆกันทําให้ต้องเลือกไปโรงเรียนใดโรงเรียนหนึ่ง. ทําให้อีกคนท่ีเหลือไม่มีแม่ไปร่วมงานวันแม่

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
แผ่นดินเดียวกัน
เรทกระทู้
« ตอบ #37 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:36 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

กิจกรรมการกราบโดยให้แม่ไปบางครั้งคนไม่ได้อยู่ในสถานะการหรือครอบครัวที่เขาไม่มีพ่อหรือไม่มีแม่ ด้วยเหตุผลหย่าร้าง ทำงานต่างจังหวัด ลาไม่ได้(เดี่ยวโดนไล่ออก) ควรให้กราบรูปพระราชินีแทนไปเลยดีกว่า เด็กได้ไม่เสียใจอย่าพูดว่าแค่วันเดียวสละไม่ได้ไม่มีใครไม่อยากไม่ไปหรอกทุกคนเขารักลูกทั้งนั้นแต่ด้วยความจำเป็นหลายอย่างก็ลำบากน่ะ ชีวิตของแม่และเด็กหรือพ่อและเด็กไม่ได้มีแค่วันเดียวมีอีก365วัน แต่ให้วันเดียวมีผลกระทบกับเขาทั้งชีวิตหรือ..สอนให้รู้จักรักแม่ทุกวันไม่ใช่วันเดียวสิ...มันอาจจะภูมิใจที่สำหรับคนเป็นแม่ที่รร.เลือกและแต่เขาไปไม่ได้ไม่ใช่แม่ไม่เสียใจน่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
add
เรทกระทู้
« ตอบ #38 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:44 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 
คือ เด็กที่แม่ไม่มาจะบอกว่าวันสำคัญหนึ่งวันทำให้ลูกเถอะ แล้ววันอื่นมันไม่ต้องรักแม่กันใช่หรือไม่ ให้มารักกันวันเดียววันแม่แห่งชาติ อย่ารักแม่แค่วันสำคัญ ทำไมครับไม่ใช่วันแม่แล้วคุณกราบแม่ไม่ได้หรอ แล้วเด็กที่แม่เสีย แม่แยกทางละ จะคิดยังไงที่คนอื่นเค้ากอดเค้ากราบกัน แต่เราไม่มีได้แต่มองเด็กบางคนยังไม่พบหน้าแม่ด้วยมัีง จะให้เด็กนั่งหน้าซึมๆเศร้าๆอย่างนั้นหรอ บางทีดูน่าสงสารนะเด็กคนอื่นกอดแม่ร้องไห้ดีใจมีความสุขแต่ตัวเราต้องมานั่งเศร้าอมทุกข์ร้องไห้เหมือนกันแต่กูไม่มีแม่ หนึ่งวันที่จะให้แม่สละเวลามาบางคนอยากมาใจจะขาด แต่บางครั้งมันไม่ได้จริงๆ แล้ววันอื่นที่อยู่ด้วยกันละทำไมไม่ทำถ้าจะว่าอย่างนั้น เอาง่ายๆนะถ้าเอาแค่วันสำคัญของตัวเองน่ะ แค่วันเกิดคุณ คุณเคยกราบแม่ กอดแม่กันไหม
noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
นานาสาระ
เรทกระทู้
« ตอบ #39 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:46 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกค่ะ ทุกวันนี้เด็กไทยก็ก้าวร้าวมากพอแล้ว บางทีถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้จักหาวิธีอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจ เค้าก็พร้อมที่จะเข้าใจในคำอธิบายที่เราพยายามบอกเค้า เพียงแต่ว่าเราพยายามพอหรือยัง?

ดิฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องเลี้ยงลูกพร้อมกับทำงานนอกบ้าน ดิฉันก็ไปเป็นตัวแทนบ้างในบางปี ถ้าปีไหนมีภาระกิจหนัก ก็อธิบายให้เค้าฟังค่ะ แล้วเค้าเข้าใจเท่านั้นเอง

สำหรับเด็กที่ไม่มีแม่ ถ้าทางโรงเรียนและผู้ปกครองเด็กพยายามอธิบายใช้จิตวิทยาพูดคุยกับเด็ก ดิฉันคิดว่าเด็กส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจ ทุกอย่างถ้าช่วยกันน่าจะแก้ไขให้ดีกว่าเดิมได้ค่ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
ครูและแม่ของลูก
เรทกระทู้
« ตอบ #40 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:47 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

พิธีการในวันแม่ ทำได้หลายอย่างค่ะ ตอนนี้ที่โรงเรียน (มัธยม) ยกเลิกขั้นตอนนี้แล้ว ในฐานะของครูและแม่ของลูกรู้สึกสะเทือนใจที่เด็กนักเรียนไม่มีแม่ให้กราบ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
์ีNuna
เรทกระทู้
« ตอบ #41 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 09:56 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ตอนเด็กๆวันแม่ แม่เราก็ไม่เคยได้ไปเช่นกัน เราเข้าใจความรู้สึกนั้น นั่งมองคนทีเค้ากราบแม่แต่เรายังดีที่มีแม่ แต่บางคนเค้าไม่มีแม่แล้ว เพื่อนเราบางคนถึงกับไม่มาวันแม่เลยนะ มันสะเทือนใจจริงๆ แต่การกราบเท้าพ่อแม่มันไม่จำเป็นต้องเป็นวันแม่หรอกนะ วันไหนๆก็กราบได้ยังไงเค้าก็ซาบซึ้งใจเช่นกัน กราบซะก่อนที่จะไม่มีโอกาสนะจ๊ะ

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
pakvimol
เรทกระทู้
« ตอบ #42 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 10:03 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

ไม่อยากให้ยกเลิกขั้นตอนนี้เลย เพราะเป็นขั้นตอนสำคัญมาก แต่อยากจะให้ทางรร.ทำการบ้านกันละเอียดมากขึ้น เด็กทุกคนเวลาแรกเข้ารร.ก็ต้องมีประวัติของคุณพ่อ-แม่หรือผู้ปกครองที่ดูแลอุปการะ ฉนั้นก่อนจะถึงวันงานก็ต้องมีจดหมายเรียนให้ทางผู้ปกครองเด็กทราบ ว่าสามารถมาร่วมงานได้หรือไม่ ไม่ได้เพราะเหตุใด โดยทำความเข้าใจกับผู้ปกครองถึงความสำคัญในการจัดงานว่าการมาร่วมงานมีความคัญต่อความรู้สึก-รักและผูกพันธ์ต่อแม่และเด็กมากเพียงใด อีกทั้งยังเป็นโอกาศที่ผู้ปกครองจะได้เจอกัน และพบปะพูดคุยกับคุณครู ซึ่งถ้าไม่ใช่ทางรร.เชิญมาพบ หรือวาระสำคัญจริงๆผู้ปกครองหลายท่านก็หาเวลายากที่จะได้เจอกับคุณครู และเมื่อคุณแม่ตอบกลับมาแล้วว่าสามารถมาร่วมงานได้ หรือให้ใครมาแทนซึ่งเป็นเรืองที่ผู้ปกครองต้องทำความเข้าใจกับเด็กด้วยว่ามาไม่ได้เพราะอะไร และทำไมต้องเป็นคุณพ่อ คุณยาย คุณย่า หรือผู้อุปการะมาแทน เพราะบุญคุณของมารดากับคนที่เลี้ยงมาก็เทียบเท่ากัน ฉนั้นจึงเป็นเรื่องที่ควรในการกราบไหว้ผู้ให้การดูแลอุปการะเทียบเท่ากับแม่ผู้ให้กำเนิด ส่วนเด็กที่ได้แจ้งจากทางบ้านแล้วว่าไม่สามารถมาร่วมงานได้ก็ให้ลาหยุดไปทำกิจกรรมกับผู้ปกครอง ถือเป็นการพบกันครึ่งทางที่ดีที่สุด

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
คุณแม่
เรทกระทู้
« ตอบ #43 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 10:07 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

อยากให้ยกเลิกเหมือนกัน เปล่าประโยชน์ เพราะครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ว่าเวลาไหน ที่ไหน วันไหน คุณก็พร้อมหน้า แต่ครอบครัวไหนที่ขาด ไม่ว่าวันไหนไหน ก็ขาด อย่ามาใช่ข้อความว่าแค่วันนี้วันเดียวเลย แค่ 1 นาทีบ้างทีบางคนก็ไม่เคยมี

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Guest
เจอเหมือนกัน
เรทกระทู้
« ตอบ #44 เมื่อ: 11 ส.ค. 12, 10:09 น »
ตอบโดยอ้างถึงข้อความ
 

q*078 พอดีคุณแม่ไม่ว่างเราเลยส่งพี่สาวไปแทนให้หน่อยพี่สาวก็ไปให้โดยเต็มใจ แต่ลูกเราไม่ยอมกราบป้า บอกว่าป้าไม่ใช่แม่ต้องเป็นมาม้าสิ ป้าหน้าแตกเลย ครูควรบอกลูกมากราบแม่ที่บ้านก็ได้ไม่ต้องแสดงออกที่โรงเรียนก็ได้เห็นใจเด็กที่ไม่มีแม่บ้าง

noticeแจ้งลบความคิดเห็นนี้   บันทึกการเข้า
Tags:  วันแม่ การจัดงาน 

หน้า: 1 2 3 4 5

 
ตอบ

ชื่อ:
 
แชร์ไป Facebook ด้วย
กระทู้:
ไอค่อนข้อความ:
ตัวหนาตัวเอียงตัวขีดเส้นใต้จัดย่อหน้าชิดซ้ายจัดย่อหน้ากึ่งกลางจัดย่อหน้าชิดขวา

 
 

[เพิ่มเติม]
แนบไฟล์: (แนบไฟล์เพิ่ม)
ไฟล์ที่อนุญาต: gif, jpg, jpeg
ขนาดไฟล์สูงสุดที่อนุญาต 20000000 KB : 4 ไฟล์ : ต่อความคิดเห็น
ติดตามกระทู้นี้ : ส่งไปที่อีเมลของสมาชิกสนุก
  ส่งไปที่
พิมพ์อักษรตามภาพ:
พิมพ์ตัวอักษรที่แสดงในรูปภาพ
 
:  
  • ข้อความของคุณอยู่ในกระทู้นี้
  • กระทู้ที่ถูกใส่กุญแจ
  • กระทู้ปกติ
  • กระทู้ติดหมุด
  • กระทู้น่าสนใจ (มีผู้ตอบมากกว่า 15 ครั้ง)
  • โพลล์
  • กระทู้น่าสนใจมาก (มีผู้ตอบมากกว่า 25 ครั้ง)
         
หากท่านพบเห็นการกระทำ หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รวมถึง การใช้ข้อความที่ไม่สุภาพ พฤติกรรมการหลอกลวง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร หรือการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้ผู้อื่น ได้รับความเสียหาย กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม