ที่มา http://th.iedb.net บทสัมภาษณ์พิเศษของผู้กำกับ จอส วีดอน ของ The Avengers มาฝากกันซึ่งเป็นครั้งแรกที่วีดอน เปิดเผยหลายๆ อย่างใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความยาวของหนัง, Director’s Cut ใน DVD/Blu-ray,
เพลงประกอบ, วายร้ายในหนัง หรือแม้แต่ The Avengers 2
ความยาวของหนัง
“รอบ แรกผมตัดหนังเหลือ 3 ชั่วโมง แต่ล่าสุดตัดได้เหลือ 2 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งผมภูมิใจสุดๆ เลย ผมเคยตั้งเป้าไว้ว่าจะให้หนังยาวมากกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง ไม่มีทางเลยสำหรับหนังที่เต็มไปด้วยนักแสดงชั้นยอดมากมาย พร้อมทั้งเนื้อเรื่องระดับมหากาพย์แบบนี้ จะยาวไม่ถึง 2 ชั่วโมง… แต่ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็จะไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน เวลาผมเจอหนังโรแมนติกคอมเมดี้ที่ยาวกว่า 2 ชั่วโมง ผมจะแบบ ‘เฮ้ย แบบนี้ไม่ไหวนะ’… ผมไม่อยากให้มีสิ่งที่ไม่ควรจะมี หลงเหลืออยู่ในหนัง”
อะไรที่ผู้กำกับตัดออกไปเกือบ 45 นาที
“มี หลายส่วนที่เป็นของผมถูกตัดออก แต่ผมว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการในการทำหนัง ที่เวลาคุณสร้างหนังของคุณ แล้วคุณก็ต้องลบตัวเองออกจากสมการ ถึงจุดหนึ่งคุณต้องหยุดมองว่า The Avengers เป็นของของคุณ คุณต้องมองขอบฟ้า แล้วก็บอกตัวเองว่า ‘รู้มั้ย The Avengers มันสำคัญกว่าตัวผมเองซะอีก แล้วหลายๆ อย่างที่ผมชื่นชอบ มันไม่จำเป็นสำหรับตัวหนัง และไม่ทำให้หนังก้าวหน้า มันก็ถือว่าเป็นส่วนเกิน’ คุณอาจจะเก็บมันไว้ได้ถ้ามันเป็น
ทีวีซีรี่ส์ เพราะคุณมีทั้งซีซั่นให้เล่นกับมันได้ แต่กับหนัง คุณต้องลบตัวเองออกจากสมการ และผมก็ทำแบบนั้นได้ในที่สุด ซึ่งสุดท้ายผมมองออกว่าอะไรจะทำให้คนดูได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด”
แล้วจะมีเวอร์ชั่น Director’s Cut ลงแผ่นหรือเปล่า?
“ไม่ ครับ [มันจะไม่มี Director's Cut ใน DVD] ผมเชื่อมั่นว่า เวอร์ชั่น Director’s Cut ของผมนั้นก็คือตัวที่จะฉายในโรงหนังนั่นแหละ สำหรับผมผมคิดว่า Director’s Cut นั้นต้องเป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดสำหรับสตูดิโอ แล้วก็สำหรับคนดูในโรงหนัง ผมไม่เคยอยู่ในสถาณการณ์ที่ต้องยอมถอดใจจากสิ่งที่ตัวเองเคยทำ ผมมั่นใจว่าคนดูจะได้เห็นอะไรเจ๋งๆ มากมาย เพราะผมถ่ายทำอะไรดีๆ ที่ผมรัก และหนังก็ออกมาในแบบที่ผมอยากให้เป็น”
จะได้พบอะไรที่เชื่อมโยงกับหนังเรื่องอื่นทั้งนอกจากของมาร์เวลหรือเปล่า?
“ผม ไม่ใช่คนที่ชื่นชมการเชื่อมโยงหนังเรื่องปัจจุบันกับผล
งานอื่นๆ ของตัวเอง มันคนละโลกกัน สำหรับผมมันเหมือนกระพริบตาให้คนดู แต่คุณการกระพริบตานี่มันจะเจ๋งมากถ้าคุณแบบ อายุ 10 ขวบ…”
ก็คือ The Avengers จะไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับงานชิ้นก่อนๆ ของเขาที่ไม่อยู่ในโลกของมาร์เวล แล้วหนังในโลกของมาร์เวลล่ะ
“มัน จะมีอย่างสองอย่าง… อย่างสองอย่างที่ผมใส่ลงไปในหนังแล้วคิดว่า ‘นี่เป็นอะไรที่ [ฮีโร่] คนหนึ่งต้องพูดแบบนี้ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของโลกมาร์เวล ถึงมันจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้’… ผมมั่นใจว่าแฟนๆ จะสังเกตุเห็นอะไรมากกว่าคนดูทั่วไป แต่ผมก็อยากให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกัน”
พูดถึงดนตรี และเพลงประกอบหนัง
วี ดอนเล่าว่าจะไม่ค่อยมีเพลงที่ดังๆ ในหนัง ยกตัวอย่างเช่นฉากที่อยู่ในบ้านของโทนี่ สตาร์ค ซึ่งต้องมีเพลงประกอบ แล้ววีดอนก็แนะนำให้ใช้เพลงคัฟเวอร์ของ สตีวี่ วันเดอร์ Cause We’ve Ended as Lovers ที่ เจฟ เบ็ค ร้องไว้ แต่สตูดิโอบอกว่าลิขสิทธิ์แพงไป แต่สุดท้ายเขาก็ดูแฮปปี้กับ อลัน ซิลเวสทรี ผู้
แต่งดนตรีให้กับหนัง
“ดนตรี ประกอบจะเก่ามากๆ ซึ่งมันทำให้ อลัน เป็นคนที่เพอร์เฟ็คสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะเขาสามารถสร้างอารมณ์ให้คนดูได้อย่างยอดเยี่ยม… ในขณะเดียวกันเขาก็สามารถสร้างอะไรที่เฉพาะเจาะจงสำหรับตัวละครแต่ละตัวได้ ด้วย ซั่งนั่นแหละที่ผมชอบมากๆ”
เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง
เท่า ที่เราเห็นจากสื่อ และตัวอย่าง โลกิ (ทอม ฮิดเดิลสตัน) จะเป็นตัวร้ายหลักในหนัง ซึ่งจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากใครสักคนด้วย โดยมีข่าวลือว่าจะมีพวกมนุษย์ต่างดาวเกี่ยวข้อง แต่วีดอนปฏิเสธตอนที่ให้ข่าวกับ EW ว่า
“ผมจะบอกเท่านี้ละกัน มันจะไม่ใช่พวก ครี หรือ สครัลส์… เอเลี่ยนสองพวกนั้นเป็นของสำคัญในโลกของมาร์เวล ซึ่งมันมีที่มาที่ไปซับซ้อน พวกมันมีของเยอะเกินไปที่จะใส่ลงในหนังที่มีดาราดังตั้ง 7 คน… ผมมี โลกิ แล้ว เขามีพลังวิเศษ ซึ่งแค่พลังวิเศษประจันกับไอร่อนแมน หรือแบล็ควิโดว์ ก็ถือว่าเต็มมือแล้ว”
ความเป็นไปได้ใน The Avengers 2
แม้จะยังไม่เสร็จสมบูรณ์สำหรับ The Avengers แต่ จอส วีดอน ก็เริ่มวาดภาพของสิ่งที่เขาอยากเห็นใน The Avengers 2 บ้างแล้ว ซึ่งเขาเล่าว่า
“พยายาม จะไม่ให้มันใหญ่ไปกว่าที่เป็นอยู่ ทำให้มันเล็กลง เป็นส่วนตัวมากขึ้น เจ็บปวดมากกว่า มันควรจะเป็นสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นกับตัวละครเหล่านี้ในลำดับถัดไป และจะไม่พยายามทำอะไรที่ซ้ำกับสิ่งที่เวิร์คแล้วในภาคแรก มันต้องมีธีมที่สดใหม่ล้วนๆ”
จากคำพูดเหล่านี้ แม้จะอีกหลายปีกว่าเราจะได้ดู The Avengers 2 แต่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะมันสวนกระแสกับยุคของหนังที่ “ยิ่งใหญ่ ยิ่งดี” (เช่น Transformers)