นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2564 โครงการรถไฟจีน-ลาว ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่เชื่อมนครคุนหมิงในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนกับนครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาว ได้แสดงให้เห็นถึงผลดีที่มีต่อการโดยสารและการขนส่งสินค้า
บริษัท รถไฟลาว-จีน จำกัด (Laos-China Railway Co., Ltd. หรือ LCRC) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในเวียงจันทน์ที่รับผิดชอบการเดินรถไฟในส่วนของลาว รายงานว่า จนถึงตอนนี้ โครงการรถไฟจีน-ลาวในส่วนของลาวนั้น ได้ขนส่งสินค้าประมาณ 2 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าข้ามแดน และขนส่งผู้โดยสาร 1.26 ล้านคน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ให้การต้อนรับนายทองลุน สีสุลิด เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว และประธานาธิบดีลาว ในโอกาสนี้ ผู้นำจีนกล่าวว่า ด้วยความพยายามร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายได้ทำให้ทางรถไฟจีน-ลาว เป็นถนนแห่งการพัฒนา ความสุข และมิตรภาพสำหรับประชาชนของทั้งสองประเทศ
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า สิ่งนี้ไม่เพียงก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อประชาชนของทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นแบบสำหรับการสร้างโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) และส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน
ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของเจียง เจ๋อหมิน
นายสี จิ้นผิง เริ่มต้นด้วยการแจ้งให้นายทองลุนทราบว่า สหายเจียง เจ๋อหมิน ได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อช่วงเช้าที่เซี่ยงไฮ้ หลังจากการรักษาทางการแพทย์ทั้งหมดล้มเหลว
นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า สหายเจียงเป็นผู้นำที่โดดเด่น ทรงเกียรติ และเป็นที่ยอมรับของทั้งพรรค กองทัพ และประชาชนจีนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ นอกจากนั้นยังเป็นนักมาร์กซิสต์ผู้ยิ่งใหญ่ นักปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพผู้ยิ่งใหญ่ รัฐบุรุษ นักยุทธศาสตร์การทหาร นักการทูต นักสู้คอมมิวนิสต์ประสบการณ์โชกโชน และผู้นำที่โดดเด่นของลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีน เขาเป็นแกนหลักของผู้นำแบบรวมศูนย์รุ่นที่สามของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเป็นผู้ก่อตั้ง "ทฤษฎีสามตัวแทน"
นายทองลุนได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการถึงแก่อสัญกรรมของสหายเจียง โดยกล่าวว่าเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชนจีน ซึ่งพรรคของเขาและชาวลาวก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
นายทองลุนกล่าวว่าสหายเจียงเป็นมิตรสนิทของลาว โดยสหายเจียงได้เดินทางเยือนลาวในปี 2543 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ลาว-จีน ในครั้งนั้นสหายเจียงได้นำเสนอหลักการของความมั่นคงในระยะยาว ความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน และความร่วมมือรอบด้าน
นายสี จิ้นผิง และนายทองลุนย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายยึดมั่นในหลักการดังกล่าวอย่างมั่นคง และให้คำมั่นว่าจะรักษาจิตวิญญาณของการเป็นเพื่อนบ้าน มิตร สหาย และพันธมิตรที่ดีต่อไป
ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
ในเดือนเมษายน 2562 จีนและลาวได้ลงนามในแผนปฏิบัติการเพื่อร่วมกันสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน นับตั้งแต่นั้นมาก็ได้เห็นผลสำเร็จของความร่วมมือ และทางรถไฟจีน-ลาวก็เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
นายสี จิ้นผิง บอกกับนายทองลุนว่า จีนจะสนับสนุนให้วิสาหกิจจีนเข้าไปลงทุนในลาวมากขึ้น ต้อนรับสินค้าคุณภาพสูงจากฝั่งลาวเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้น และให้ความช่วยเหลือแก่ลาวต่อไปเพื่อบรรเทาความยากลำบากที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน
เขากล่าวเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายควรเดินหน้าขยายการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การศึกษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว สุขภาพ เยาวชน และด้านอื่น ๆ ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของสองประเทศ
ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของลาว และเป็นประเทศที่มีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากที่สุดในลาว
กระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2565 จีนลงทุนรวม 1.327 หมื่นล้านดอลลาร์ในการลงทุนประเภทต่าง ๆ ในลาว นอกจากนี้ จีนได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลาวแบบไม่ต้องใช้คืน รวมถึงปล่อยเงินกู้โดยไม่คิดดอกเบี้ยหรือดอกเบี้ยต่ำในด้านวัสดุ อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือในการสร้างโครงการให้เสร็จสมบูรณ์ ให้การฝึกอบรมบุคลากร และให้การสนับสนุนทางเทคนิค
จีนเป็นหลักสำคัญ
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนยินดีที่จะกระชับความร่วมมือและยกระดับการประสานงานกับลาวภายในกรอบความร่วมมือล้านช้าง-แม่โขง (Lancang-Mekong Cooperation) และความร่วมมือจีน-อาเซียน ตลอดจนส่งเสริมค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติ และร่วมกันรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองของโลก
นายทองลุนกล่าวว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนที่โลกกำลังประสบอยู่ จีนเป็นหลักสำคัญในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของโลก โดยจีนมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาร่วมกันและสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน
https://news.cgtn.com/news/2022-11-30/Xi-holds-talks-with-Lao-president-1fnZjFTRH1K/index.html
